ภาพยนตร์เรื่อง “Where the Wind Blows” (2023) เป็นภาพยนตร์อาชญากรรมระทึกขวัญสัญชาติฮ่องกง เขียนบทและกำกับโดยฟิลิป หยุง นำแสดงโดยเหลียงเฉาเหว่ยและกัวฟู่เฉิง ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในฮ่องกงช่วงทศวรรษ 1970 ในช่วงที่คณะกรรมการอิสระต่อต้านการทุจริตแห่งฮ่องกง (ICAC) ก่อตั้งขึ้นเพื่อตรวจสอบเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่ฉ้อฉล

ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าเรื่องราวของเหลยเล่อ (เหลียงเฉาเหว่ย) และหนานเจียง (กัวฟู่เฉิง) สองเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตัดสินใจร่วมมือกันเพื่อจัดการกับระบบที่แหลกเหลวภายในกรมตำรวจ เหลยเล่อเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ฉลาดและทะเยอทะยาน เขามีความปรารถนาที่จะเปลี่ยนสถานะที่เป็นอยู่ของฮ่องกง ในขณะที่หนานเจียงเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ภักดีต่อเหลยเล่อ เขาพร้อมที่จะทำทุกอย่างตามคำสั่งของเหลยเล่อ

เหลยเล่อและหนานเจียงเริ่มสร้างอาณาจักรแห่งการทุจริตโดยการควบคุมอาชญากรรม และในที่สุดก็ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสารวัตรใหญ่ของกรมตำรวจ อำนาจของเหลยเล่อทำให้เขาสามารถกำจัดคู่แข่งและบรรลุเป้าหมายของเขาได้ อย่างไรก็ตาม อำนาจและการทุจริตก็นำไปสู่ความขัดแย้งกันระหว่างสมาชิกในองค์กร และเมื่อนั้นฮ่องกงก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคำชมว่าไม่เพียงถ่ายทอดเรื่องราวการทำผิดและการคอรัปชั่นของกรมตำรวจฮ่องกงในยุคนั้นแล้ว ยังเต็มไปด้วยฉากแอ็คชั่นที่มีความสมจริง บทสนทนาที่คมคาย รวมถึงการปะทะบทบาทกันของสองซูเปอร์สตาร์ของเอเชียอย่างไม่มีใครยอมใคร

ต่อไปนี้คือรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้:

• เหลยเล่อและหนานเจียงเริ่มต้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกต้องตามกฎหมาย พวกเขาต้องการที่จะเปลี่ยนสถานะที่เป็นอยู่ของฮ่องกง ซึ่งเต็มไปด้วยการทุจริตและอาชญากรรม
• อย่างไรก็ตาม เหลยเล่อค่อยๆ เปลี่ยนไป เขาเริ่มใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวและเพื่อกำจัดคู่แข่ง
• หนานเจียงยังคงภักดีต่อเหลยเล่อ เขาพร้อมที่จะทำทุกอย่างตามคำสั่งของเหลยเล่อ
• ในที่สุด เหลยเล่อก็ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสารวัตรใหญ่ของกรมตำรวจ อำนาจของเขาทำให้เขาสามารถกำจัดคู่แข่งและบรรลุเป้าหมายของเขาได้
• อย่างไรก็ตาม อำนาจและการทุจริตก็นำไปสู่ความขัดแย้งกันระหว่างสมาชิกในองค์กร และเมื่อนั้นฮ่องกงก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ภาพยนตร์เรื่องนี้จบลงด้วยเหลยเล่อและหนานเจียงต้องเผชิญกับผลของการกระทำของพวกเขา พวกเขาถูกไล่ออกจากกรมตำรวจและถูกตั้งข้อหาทุจริต ภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าอำนาจและความทะเยอทะยานสามารถทำลายล้างชีวิตผู้คนได้